ทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น

ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น
ทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น

ทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น สำหรับสองครอบครัว พรางตาให้ดูเป็นหลังเดียว

ทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น ทาวน์เฮ้าส์ คือ บ้านแถว หรือ ตึกแถว ที่มีหน้าตาและรูปแบบ การออกแบบเหมือนกัน ตัวบ้านอยู่ชิดติดกัน เป็นแถบตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป ความสูงไม่เกิน 3 ชั้น ส่วนใหญ่แล้วมักสร้างเป็นบ้านแถว 2 ชั้น มีกำแพงกั้น ระหว่างบ้านเท่านั้น ไม่ได้มีรั้วแยกอาณาเขต บ้านแต่ละหลังอย่างชัดเจน แน่นอนว่าพื้นที่ หรือบริเวณภายในตัวบ้าน ค่อนข้างเล็กและจำกัด พื้นที่ใช้สอยพอประมาณ เช่น 2 ห้องน้ำ 3 ห้องนอน 1 ห้องครัว พื้นที่พอเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้บ้าง

ส่วนใหญ่จะมีระยะห่าง ระหว่างบ้านแต่ละหลังน้อย เนื่องจากไม่มีรั้วกั้น ส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวค่อน ข้างน้อยตามไปด้วย เมื่อพูดถึงเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องบอกว่า บ้านทาวน์เฮ้าส์ ไม่มีส่วนกลาง หรือคลับเฮ้าส์ที่ใช้ร่วมกันเหมือนโครงการบ้านจัดสรรอื่น ๆ เมื่อพิจารณาแล้ว “ทาวน์เฮ้าส์” คือรูปแบบที่อยู่อาศัยลักษณะใกล้เคียงกับ “ทาวน์โฮม” แต่เป็นคำที่เรียกมา ก่อนทาวน์โฮมนั่นเอง

แบบบ้านทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น

บนถนนที่อยู่ทาวน์เฮาส์ อาศัยอันเงียบสงบ ในย่านชานเมืองของเมลเบิร์น Thornbury เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ ที่ผุดขึ้นท่ามกลางบ้านอิฐสีแดง และสีครีม เป็นอาคารใหม่ที่ใช้วัสดุ สี และรูปทรงที่เรียบง่าย แต่กลับโดดเด่นสะดุดตา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ บ้านนี้เป็นทาวน์เฮาส์แฝด ที่ไม่สังเกตดี ๆ ก็ไม่รู้ว่ามี 2 หลัง

สำหรับเจ้าของบ้านนี้ เป็นครอบครัวเดียว กันสองเจเนอเรชัน ครอบครัวแรกเป็นคู่สามีภรรยาสูงอายุ และอีกหนึ่งครอบครัว ที่มีลูกเล็ก ทั้งสองกลุ่มร่วมมือกันจัดทำบทสรุป ร่วมกันที่ตอบสนอง ต่อความต้องการ ที่แตกต่างกัน ของพวกเขา แล้วนำมาทำ ซ้ำแผนเดียวกัน ในแปลนของตัวเองได้ ผลลัพธ์ที่ได้ คือบ้านที่มีชิ้นส่วนแบบธรรมดา แต่สามารถปรับเปลี่ยน และยืดหยุ่นให้เหมาะกับการใช้งานได้

ทาวน์เฮาส์ สำหรับผู้เข้าพักเป็นคู่ (Dual Occupancy) หรือบ้านแฝดที่อยู่สองครอบครัวในหลังเดียว เป็นเรื่องปกติในเขตชาน เมืองชั้นในตอนเหนือของเมลเบิร์น หลายหลังขาดระเบียบ ทางสถาปัตยกรรม ที่ชัดเจน แต่ทาวน์เฮาส์ Thornbury ของ Fowler ต่างออกไปเพราะที่นี่ นอกจากจะมีเส้นสาย ที่ผ่านการคิดมาแล้ว มีวัสดุที่จับต้อง ได้ไม่แพงอย่างเมทัลชีท ไม้ อิฐ และเพิ่มฟาซาดให้ความความเป็นส่วนตัว ภายในยังแบ่งสัดส่วน การใช้งาน และมีส่วนที่ใช้งานแบบ โปร่งโล่งสบายๆ

แบบบ้านทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น

ภาพรวมของบ้านดูง่าย ๆ แต่ถ้ามองภาพใกล้ ๆ จะเห็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้บ้านมีหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น สวนโล่ง ๆ ที่ทางเข้า ปูด้วยแผ่นหินกลางพื้นทรายที่นำสายตาเข้ามาคู่กัน 2 ด้าน กรอบบ้านเป็นคอนกรีต พ่นทรายหยาบๆ ที่มีส่วนลึกรองรับ รูปแบบหน้าจั่วสีขาวที่ คมชัดด้านบน ที่ชั้นล่างยังมีประตูไม้สีน้ำตาลอันอบอุ่น

เผยให้เห็นส่วน ความลึกเข้าไป ต้นไม้ใบหญ้าที่ตกแต่งบ้านเสริม แนวสถาปัตยกรรม ส่วนองค์ประกอบของอาคารอย่างกรอบบ้านที่ยาวเป็นกรอบเดียว ผนังกระจกที่แทรกอยู่ ทำให้ยากต่อการพิจารณาในทันทีว่านี่คือ บ้านหนึ่งหรือสองหลัง

การตกแต่งใช้วัสดุจากธรรมชาติ

บ้านจะมีทางเข้าและบันไดแยกกันเป็นคนละคูหา

แต่ละบ้านจะมีทางเข้า และบันไดแยกกันเป็น คนละคูหา ด้านหน้าที่ติดถนนหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งให้แสงที่มี คุณภาพในช่วงเช้า สิ่งที่เป็นข้อพิจารณาหลัก คือการพยายามนำแสง ทางทิศนี้มาสู่พื้นที่ อยู่อาศัย นักออกแบบจึงใส่ผนังกระจกใสขนาด ใหญ่ด้านล่าง หลังคาที่มีความแหลมสูง ชันเหนือห้องนั่งเล่นชั้นบนก็มีจังหวะ ของช่องแสงทางทิศ เหนือเช่นกัน

สำหรับชั้นล่างมีส่วนที่ เจาะพื้นที่สูงสองเท่าโปร่ง ๆ ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างชั้นทำให้การ ปฏิสัมพันธ์กันง่ายขึ้น และช่วยระบายอากาศพร้อมกระจายแสงเข้าสู่ตัวบ้าน ในจุดต่ำของหลังคาจั่วแหลม จะติดกับลานด้านหลัง ให้มุมมองที่ดูต่ำช่วยลดผลกระทบ ต่อภาพที่มีต่อบ้าน ที่อยู่ใกล้เคียง ทาวน์โฮม รัตนาธิเบศร์

ผนังสีขาว ไม้สีน้ำตาล กระจกใส เป็นสามสิ่งที่แม้ จะไม่มีรายละเอียดความหรูหรา แต่เมื่อจับมาอยู่ด้วยกันแล้ว รู้สึกว่าอิ่มครบไม่ขาดไม่เกิน พื้นที่ใช้สอยหลักในบ้านพยายาม จับแสงเหนือผ่านหน้าต่าง และช่องแสง ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง เพื่อให้แสงแดดส่อง ถึงโดยตรง ทำให้ได้ประโยชน์ จากมวลความร้อนในช่วง หน้าหนาวด้วย ความใสของกระจก ยังช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิว พร้อม ๆ กับสร้างความรู้สึกโปร่งเบา ให้บ้านดูกว้างขึ้น มีอิสระทางสายตาและพื้นที่มากขึ้น

การตกแต่งใช้วัสดุจากธรรมชาติ

การตกแต่งใช้วัสดุจากธรรมชาติ

อาทิ ไม้ หินขัด อิฐ โทนสีอ่อนๆ มีความเป็นเอิร์ธโทน อย่างเช่น สีชานม สีเขียวหัวเป็ด เฟอร์นิเจอร์เลือกน้อยชิ้น เท่าที่จำเป็น รูปลักษณ์ดีไซน์ เรขาคณิต บางชิ้นเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง มุมมมน ที่ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูผ่อนคลายสบายตา Luxury villa

สถาปนิกพยายามจัด ฟังก์ชันเอาไว้ที่ด้านหนึ่งของบ้าน แล้วจัดให้มีที่ว่างสำหรับทำเป็นโถงบันไดเชื่อมต่อ ระหว่างชั้นข้างๆ โดยใส่ช่องแสงในพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ให้บ้านมีความสว่าง ในระหว่างขึ้นลงบันได และมีช่องแสง skylight ในบางจุด วิธีนี้ทำให้บ้านที่มีผนังติด ๆ กันไม่ขาดแสงธรรมชาติภายใน

นอกจากการ ออกแบบฟังก์ชันแล้ว สิ่งที่ซ่อนอยู่ในบ้านนี้ด้วยคือ “ความยั่งยืน” ที่เป็นส่วนสำคัญของ กระบวนการออกแบบ และไม่ใช่สิ่งที่นำมาใช้ในภายหลังเพื่อเป็นส่วนเสริม จากความคิดนี้ทำให้สถาปนิก รวมการดีไซน์บ้านเข้ากับการออกแบบพลังงานไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นการวางแนวแสงอาทิตย์ ตำแหน่งของมวลความร้อน ฉนวนกันร้อนกันหนาว ตำแหน่งและขนาดของประตูหน้าต่าง ระบบกักเก็บน้ำ และวัสดุ ทั้งหมดเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ และแต่ละส่วนเหล่านี้มี ความสำคัญต่อการ สร้างบ้านที่ยั่งยืน

5 ข้อดีของทาวน์เฮ้าส์ ที่หลายคนมักมองข้าม

ในเมืองไทยทาวน์โฮม ตามกฎหมายจะ ต้องมีลักษณะดังนี้ คือ หน้ากว้างอย่างต่ำ 4 เมตร มีพื้นที่ว่างด้านหน้า ระหว่างแนวรั้วหรือ แนวเขตที่ดินกับแนวผนังบ้าน กว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร มีพื้นที่ว่างด้านหลังไม่น้อยกว่า 2 เมตร หากมีทาวน์โฮมกว้าง 4 เมตร ติดกัน 10 หลัง

ต้องมีระยะห่างเว้นว่าง 4 เมตร ข้อดีของ ทาวน์โฮมคือ อยู่ในช่วงราคาที่คน ส่วนใหญ่เอื้อมถึงได้ ส่วนข้อด้อย เช่น ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า การต้องใช้รั้วและกำแพง ร่วมกับเพื่อนบ้านอาจทำให้เกิดปํญหา และมักเกิดปัยหา ขาดแสงภายใน จึงต้องจัดการเรื่องแสงและการระบายอากาศให้ดี

5 ข้อดีของทาวน์เฮ้าส์ ที่หลายคนมักมองข้าม

5 ข้อดีของทาวน์เฮ้าส์ ที่หลายคนมักมองข้าม

  • 1.มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ
    การอยู่ บ้านทาวน์เฮ้าส์โมเดิร์น จะทำให้คุณมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงแบบชิดเชื้อสุด ๆ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือกรณีฉุกเฉินขึ้นมา โดยที่ไม่มีสมาชิกคนอื่นในครอบครัวอยู่บ้านเลยสักคน เพื่อนบ้านจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดในยามคับขันอย่างนี้ อีกทั้งเวลาที่คุณยกครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือมีเหตุต้องทิ้งบ้านเป็นเวลาหลายวัน ก็ยังมีเพื่อนบ้านคอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่ตลอด
  • 2.อบอุ่นและปลอดภัย
    นอกจากเราจะมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงไว้พึ่งพาแล้ว การที่มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ในอาคารถัด ๆ ไปจากเรายังช่วยให้สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ทาวน์เฮ้าส์ดูคึกคัก ไม่เปลี่ยวจนน่ากลัวจะเกิดเหตุร้ายที่มักเกิดในที่ลับหูลับตาคน ซึ่งก็น่าจะหายห่วงเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งเหมือนกัน โดยเฉพาะหากเพื่อนบ้านรอบ ๆ ด้านมีความเป็นมิตรและเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน
  • 3.พื้นที่ใช้สอยเหมาะสม ในราคาเอื้อมไหว
    ทาวน์เฮ้าส์จัดอยู่ในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่สูงมาก แต่กลับมีพื้นที่ใช้สอยเหมาะกับครอบครัวเล็ก ๆ พอสมควร ทั้งห้องนอนประมาณ 2-3 ห้อง ห้องนั่งเล่น ส่วนครัว และพื้นที่หน้าบ้านเล็กน้อยให้พอจอดรถ หรือจัดสวนขนาดย่อม ซึ่งหากเทียบกับราคาบ้านเดี่ยวแล้วคงต่างกันไม่ใช่ย่อย ดังนั้นทาวน์เฮ้าส์ก็น่าจะตอบโจทย์คนที่รายได้ไม่มากนักแต่ต้องการซื้อบ้านมากกว่าคอนโดนั่นเอง
  • 4.ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวก
    เหตุผลหลัก ๆ ที่จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกอยู่ที่ไหนสักแห่งคงหนีไม่พ้นเรื่องทำเลแน่นอน ซึ่งทาวน์เฮ้าส์ส่วนมากก็มักจะตั้งอยู่ในแถบชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือบางทีอาจจะอยู่ใกล้สวนสาธารณะ ตลาดสด รวมทั้งห้างสรรพสินค้าสักแห่ง ไปไหนมาไหนสะดวกสบายไม่น้อยเลย ซึ่งถ้าในทำเลเดียวกันแต่เป็นบ้านเดี่ยวก็อาจจะราคาสูงจนสู้ไม่ไหว
  • 5.ประหยัดค่าบำรุงรักษา ดูแลง่าย
    บ้านยิ่งใหญ่ พื้นที่ยิ่งกว้างก็ย่อมต้องดูแลรักษาสภาพแวดล้อมรวมทั้งภูมิทัศน์รอบ ๆ บ้านมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจุดนี้คงต้องใช้ค่าใช้จ่ายพอสมควรเลยนะคะ แต่หากเป็นทาวน์เฮ้าส์ นอกจากโครงสร้างอาคารแล้ว ก็มีส่วนหน้าบ้านอีกเล็กน้อยให้ดูแล ไม่เหมือนคอนโดที่มีแค่ระเบียงเล็ก ๆ และสำหรับคนที่อยากมีสวนขนาดย่อมแบบพอหอมปากหอมคอ จัดส่วนหย่อมหน้าบ้านทาวน์เฮ้าส์พอให้ชุ่มชื่นก็เก๋ดีเหมือนกัน แถมยังดูแลรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายเบากว่าบ้านเดี่ยวอีกด้วย